• ความดันโลหิตสูง
• โรคเบาหวาน
• โรคหัวใจ
• ไขมันในเลือดสูง
• ความอ้วน
• อายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป
• ความเครียด
• การดื่มสุรา
• การสูบบุหรี่
• ขาดการออกกำลังกาย

Fast Stroke คือ วิธีการสังเกตอาการ Storke หรือ อาการโรคหลอดเลือดสมอง ของตัวเองและคนใกล้ชิด เมื่อพบแล้วควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที โดยอาการ ‘F.A.S.T’ สังเกตได้ดังนี้

F – Face : ใบหน้า

อาการกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงอย่างฉับพลัน ผู้ป่วยโรคสโตรก จะมีอาการใบหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว น้ำลายไหลออกจากมุมปากข้างที่ตก อมน้ำไม่อยู่  มีน้ำไหลออกจากมุมปาก

A – Arm : แขน

อาการอ่อนแรงของแขน ขา ซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายอย่างฉับพลัน สูญเสียการทรงตัว

S – Speak : การพูด

การพูดลำบาก พูดไม่ชัด พูดติดๆ ขัดๆ นึกคำพูดไม่ออก

T – Time : เวลา

รู้เวลาที่เกิดอาการผิดปกติ คือ รู้ว่าเริ่มมีอาการเป็นเวลาเท่าไหร่ นับจากที่มีอาการผิดปกติ หรือ นับจากเวลาที่ผู้ป่วยโรค Stroke มีอาการปกติเป็นครั้งสุดท้าย และควรรีบมาโรงพยาบาลให้ทันภายใน 4.5 ชั่วโมง เนื่องจากในบางกรณีแพทย์อาจพิจารณาให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสฟื้นตัวจากความพิการได้

นอกจากนี้ยังมีอาการปวดศีรษะรุนแรงฉับพลัน และ การมองเห็นมีปัญหาฉับพลัน อาจมองเห็นภาพซ้อน มองเห็นภาพครึ่งเดียว ตาบอดหนึ่งหรือสองข้าง ซึ่งสัญญาณเตือน Stroke อาการ ดังกล่าว อาจเกิดเพียงอาการเดียว หรือหลายอาการร่วมกันก็ได้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการผิดปกติชั่วขณะ อาการจะหายไปและดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากสมองขาดเลือดชั่วคราว (Mini Stroke) แต่อย่างไรก็ตาม หากมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น ไม่ควรรอดูอาการ แต่ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำ การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง และ ตรวจหลอดเลือดเชิงลึก โดยด่วน

Stroke Gloden hour หรือ Golden period คือ ช่วงเวลาสำคัญของ การรักษา โรค Stroke หลอดเลือดสมอง และ การฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke เป็นช่วงเวลาทอง ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ไม่ว่าจะ เส้นเลือดในสมองแตก หรือ เส้นเลือดในสมองตีบ หรือ หลอดเลือดสมองอุดตัน หากได้รับการรักษาในช่วงเวลานี้จะทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ลดการเกิดความพิการ ลดอัตรการเสียชีวิตและกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ

1. รับประทานอาหารไขมันน้อย และรสไม่เค็ม เพื่อป้องกันไขมันในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง 
2. ควรรับประทานผักผลไม้เพิ่มขึ้น
3. ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม 
4. งดสูบบุหรี่
5. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที
7. คลายเครียดด้วยการหากิจกรรมที่ชอบทำ หรือ ไปเที่ยวหาเวลาพักผ่อนให้กับตัวเอง
8. ศึกษาเรื่องโรค Storke หลอดเลือดสมอง อาการเตือน F.A.S.T และแนวทางการเข้ารับการรักษาอาการ Stroke ได้อย่างทันท่วงที
9. ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง โรคสโตรก เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ภาวะไขมันในหลอดเลือดสูง และควรวัดความดันโลหิตเป็นระยะ
10. ตรวจหลอดเลือดเชิงลึก เพื่อค้นหาความเสี่ยงของ โรคสโตรก หลอดเลือดสมอง วิธีนี้จะได้ความแม่นยำกว่าการตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไป